วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557

บทสวดมนต์ข้ามปี



       
      ในช่วงเทศกาลวันปีใหม่ที่จะถึงนี้ อีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นคือ การสวดมนต์ข้ามปี โดยนิยมจัดเป็นประจำทุกปี ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการสวดมนต์ข้ามปี เสริมบุญบารมี มีความเป็นสิริมงคลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ แต่รู้ไหมว่าประเพณีการสวดมนต์ข้ามปีนั้น มีมาก่อนตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 แล้ว!! วันนี้จะจึงนำเรื่องราวดีๆ เกี่ยวข้องกับการสวดมนต์ข้ามปีมาฝากกันการสวดมนต์ข้ามปี จากวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี  ไปวันที่ 1 มกราคม ของทุกปีนั้น เป็นกิจกรรมดี ๆ ที่ชาวพุทธควรทำและควรปฏิบัติและสืบทอดรักษาไว้ 

การสวดมนต์ข้ามปีเป็นประเพณีที่ชาวไทยปฏิบัติมาแต่โบราณ ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระนั้งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้เคยประกอบพิธีสวดมนต์ปีใหม่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งในสมัยนั้นคือวันขึ้นปีใหม่ของไทย โดยคืนก่อนสิ้นปีพระสงฆ์และ ประชาชนจะร่วมกันสวดมนต์บทมหาสมัยสูตร  จากนั้นเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนจึงสวดบทชัยมงคลคาถา  แต่ตอมาราชการได้กำหนดให้วันปีใหม่ตรงกับหลักสากลคือวันที่ 1มกราคมของทุกปี พิธีการสวดมนต์ข้ามปีนี้จึงเลือนหายไปจากสังคม

ปัจจุบันการสวดมนต์ข้ามปีได้รับความนิยมขึ้นอีกครั้ง ซึ่งมีทั้งหน่วยงานต่างๆ ร่วมกันจัดงานขึ้น ทั้งในส่วนของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, มหาเถรสมาคม และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ตลอดจนวัดวาอารามต่างๆ ได้ร่วมกันจัดพิธีสวดมนต์ข้ามปีขึ้น ประชาชนส่วนใหญ่เข้าร่วมกิจกรรมจึงทำให้ประเพณีการสวดมนต์ข้ามปีนี้กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง 

                    คำว่า "มนต์" โดยทั่วไปหมายถึงถ้อยคำที่ขลัง หรือศักดิ์สิทธิ์ สามารถทำให้เกิดผลที่มุ่งหมายบางอย่างด้วยอานุภาพของมนต์นั้น แต่ในพระพุทธศาสนา ซึ่งเน้นในเรื่องการใช้ปัญญาพิจารณาเหตุผล คำว่า มนต์หมายถึงหลักธรรม บทสอนใจมากกว่าถ้อยคำที่ขลังหรือศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นหากผู้สวดมนต์ได้นำคำสอนต่าง ๆ ที่สอดแทรกอยู่ในบทสวดมนต์ไปใช้เป็นข้อปฏิบัติในการดำรงชีวิต ย่อมต้องส่งผลดีต่อตนเองและผู้คนรอบข้างได้เป็นอย่างดี เช่น ทำจิตใจให้สงบนิ่งมากขึ้น และสามารถพินิจพิเคราะห์สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรอบคอบยิ่งขึ้น

      สำหรับกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 ธันวาคมถึงวันที่ 1 มกราคมนั้น สิ่งที่จะขาดไม่ได้ คือ บทสวดมนต์ข้ามปี ที่หลายคนยังสงสัยว่า จะมีความเหมือนหรือแตกต่างกับบทสวดมนต์ธรรมดาอย่างไร - -  บทสวดมนต์ข้ามปี ไม่มีความแตกต่างจากบทสวดมนต์ทั่วไป เพียงแค่มีการคัดเลือกเฉพาะบทสวดมนต์ที่เหมาะสม ทว่า ในแต่ละวัดที่จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี อาจเลือกใช้บทสวดมนต์ที่แตกต่างกันออกไป เนื่องจากในพิธีการสวดมนต์ข้ามปีไม่ได้มีการจำเพาะเจาะจงว่าจะต้องสวดมนต์ด้วยบทใดบ้าง 

             ทั้งนี้ ในการสวดมนต์ข้ามปี โดยก่อนเริ่มต้นพิธีการสวดมนต์ข้ามปี ผู้สวดควรเตรียมพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อให้เกิดความสงบ ก่อนเปล่งวาจาด้วยบทสวดมนต์ดังต่อไปนี้

 

คำบูชาพระรัตนตรัย
          โย โส ภะคะวา อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ
          สวากขาโต เยนะ ภะคะวะตา ธัมโม
          สุปะฏิปันโน ยัสสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
          ตัมมะยัง ภะคะวันตัง สะธัมมัง สะสังฆัง
          อิเมหิ สักกาเรหิ ยะถาระหัง อาโรปิเตหิ อะภิปูชะยามะ
          สาธุ โน ภันเต ภะคะวา สุจิระปะรินิพพุโตปิ
          ปัจฉิมาชะนะตานุกัมปะมานะสา
          อิเม สักกาเร ทุคคะตะปัณณาการะภูเต ปะฏิคคัณหาตุ
          อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ 

              ๑.  อะระหัง สัมมาสัมพุธโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ.
                  (กราบลง ภาวนาว่า พุทโธ เม นาโถ พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า) 
          ๒. สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมัง นะมัสสามิ
                  (กราบลง ภาวนาว่า ธัมโม เม นาโถ พระธรรมเป็นทีพึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า) 
          ๓. สุปะฏิปันโณ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ
                   (กราบลง ภาวนาว่า สังโฆ เม นาโถ พระสงฆ์เป็นทีพึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า) 

บทชุมนุมเทวดา 
          สะรัชชัง สะเสนัง สะพันธุง นะรินทัง 
          ปะริตตังนุภาโว สะทา รักขะตูติ
          ผะริตวานะ เมตตัง สะเมตตา ภะทันตา 
          อะวิกขิตตะจิตตา ปะริตตัง ภะณันตุ 
          สะมันตา จักกะวาเฬสุ อัตราคัจฉันตุ เทวะตา
          สัทธัมมัง มุนิราชัสสะ สุณันตุ สัคคะโมกขะทัง
          สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน
          ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต
          ภุมมา จา ยันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา
          ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระวะจะนัง สาธะโว เม สุณันตุ. 
          ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
          ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
          ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา

บทนมัสการพระพุทธเจ้า
          นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
          นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
          นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

บทพระไตรสรณคมน์
          พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
          ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
          สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
          ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
          ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
          ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
          ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
          ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
          ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

บทสรรเสริญพระพุทธคุณ  พระธรรมคุณ  พระสังฆคุณ
              อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ,  
          วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
          อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ
          สัตถา เทวะมะนุสสานัง,  พุทโธ ภะคะวาติ ฯ
              สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
          สันทิฏฐิโก อะกาลิโก, เอหิปัสสิโก,  
          โอปะนะยิโก, ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ ฯ
              สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
          อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,  
          ญายะปะฏิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ,  
          สามีจิปะฏิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ,  
          ยะทิทัง  จัตตาริ  ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
          เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,  
          อาหุเนยโย, ปาหุเนยโย, ทักขิเณยโย
          อัญชะลีกะระณีโย, อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ ฯ


(๑)   บทพุทธชัยมงคลคาถา  (ชะยะสิทธิคาถา)
              พาหุงสะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง
          ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง
          ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
          ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ.
              มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง
          โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
          ขันตี สุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
          ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ.
              นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง
          ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง
          เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
          ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ.
              อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง
          ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
          อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวามุนินโท
          ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ.
              กัตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา
          จิญจายะ ทุฎฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ
          สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
          ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ.
              สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง 
          วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
          ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท
          ตันเตชะสาภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ.
              นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง
          ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต
          อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
          ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ.
              ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง
          พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
          ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท
          ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ.
              เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา
          โย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
          หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ
          โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ
          หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ
          โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ.

(๒)   บทมหากา  (ชัยปริตรคาถา)
              มะหาการุณิโก นาโถ               หิตายะ สัพพะปาณีนัง 
          ปูเรตวา ปาระมี สัพพา             ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง 
          เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ             โหตุ เต ชะยะมังคะลัง
              ชะยันโต โพธิยา มูเล                สักยานัง นันทิวัฑฒะโน 
          เอวัง ตะวัง วิชะโย โหหิ          ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล 
          อะปะราชิตะปัลลังเก               สีเส ปะฐะวิโปกขะเร 
          อะภิเสเก สัพพะพุทธานัง        อัคคัปปัตโต ปะโมทะติ.
              สุนักขัตตัง สุมังคะลัง               สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง 
          สุขะโณ สุมุหุตโต จะ                สุยิฏฐัง พรัหมะจารีสุ 
          ปะทักขิณัง กายะกัมมัง             วาจากัมมัง ปะทักขิณัง
          ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง            ปะณิธี เต ปะทักขิณา 
          ปะทักขิณานิ กัตวานะ              ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ. 

(๓)   บทพระคาถาชินบัญชร
ปุตตะกาโม ละเภปุตตัง    ธะนะกาโม ละเภธะนัง
อัตถิกาเย กายะญายะ    เทวานังปิยะตังสุตตะวา
อิติปิ โส ภะคะวา    ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ
มรณัง สุขัง อะระหังสุคะโต  นะโมพุทธายะ

ชะยา สะนา คะตา พุทธา เชตะวา มารัง สะวาหะ นัง
จะตุสัจจาสะภัง ระสัง เย ปิวิงสุ นะราสะภา.

ตัณหังกะราทะโย พุทธา อัฏฐะวีสะติ นายะกา
สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง มัตถะเก เต มุนิสสะรา.

สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง พุทโธ ธัมโม ทะวิโล จะเน
สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง อุเร สัพพะ คุณากะโร.

หะทะเย เม อะนุรุทโธ สารีปุตโต จะ ทักขิเณ
โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง โมคคัลลาโน จะ วามะเก.

ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง อาสุง อานันทะราหุลา
กัสสะโป จะ มะหานาโม อุภาสุง วามะโสตะเก.

เกสะโต ปิฏฐิภาคัสมิง สุริโย วะ ปะภังกะโร
นิสินโน สิริสัมปันโน โสภิโต มุนิ ปุงคะโว

กุมาระกัสสะโป เถโร มะเหสี จิตตะวาทะโก
โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง ปะติฏฐาสิ คุณากะโร.

ปุณโณ อังคุลิมาโล จะ อุปาลี นันทะ สีวะลี
เถรา ปัญจะ อิเมชาตา นะลาเฏ ติละกา มะมะ.

เสสาสีติ มะหาเถรา วิชิตา ชินะสาวะกา เอตาสีติ
มะหาเถรา ชิตะวันโต ชิโนระสา
ชะลันตา สีละเตเชนะ อังคะมังเคสุ สัณฐิตา.

ระตะนัง ปุระโต อาสิ ทักขิเณ เมตตะสุตตะกัง
ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ วาเม อังคุลิมาละกัง

ขันธะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะ สุตตะ กัง
อากาเส ฉะทะนัง อาสิ เสสา ปาการะสัณฐิตา

ชินาณา วะระสังยุตตา สัตตัปปาการะ ลังกะตา
วาตะปิตตา ทิสัญชาตา พาหิรัช ฌัตตุปัททะวา.

อะเสสา วินะยัง ยันตุ อะนันตะ ชินะ เตชะสา
วะสะโต เม สะกิจเจนะ สะทา สัมพุทธะ ปัญชะเร.

ชินะปัญชะระ มัชฌัมหิ วิหะรันตัง มะฮีตะเล
สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ เต มะหาปุริสาสะภา.

อิจเจวะมันโต สุคุตโต สุรักโข ชินานุภาเวนะ ชิตูปัททะโว
ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโฆ สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะราโย
สัทธัมมานุภาวะปาลิโต จะรามิ ชินะปัญชะเรติ.

(๔)    บทสัมพุทเธคาถา
              สัมพุทเธ อัฏฐะวีสัญจะ              ทะวาทะสัญจะ สะหัสสะเก
          ปัญจะสะตะสะหัสสานิ                   นะมามิ สิระสา อะหัง
          เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ                อาทะเรนะ นะมามิหัง
          นะมะการานุภาเวนะ                      หันตวา สัพเพ อุปัททะเว
          อะเนกาอันตะรายาปิ                      วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ

              สัมพุทเธ ปัญจะปัญญาสัญจะ       จะตุวีสะติสะหัสสะเก
          ทะสะสะตะสะหัสสานิ                     นะมามิ สิระสา อะหัง
          เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ                อาทะเรนะ นะมามิหัง
          นะมะการานุภาเวนะ                      หันตวา สัพเพ อุปัททะเว
          อะเนกา อันตะรายาปิ                     วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ
       
              สัมพุทเธ นะวุตตะระสะเต            อัฏฐะจัตตาฬีสะสะหัสสะเก
          วีสะติสะตะสะหัสสานิ                      นะมามิ สิระสา อะหัง
          เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ                  อาทะเรนะ นะมามิหัง
          นะมะการานุเวนะ                           หันตวา สัพเพ อุปัททะเว
          อะเนกา อันตะรายาปิ                      วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ

(๕)    บทนโมการอัฏฐกคาถา
          นะโม อะระหะโต สัมมา                    สัมพุทธัสสะ มะเหสิโน 
          นะโม อุตตะมะธัมมัสสะ                    สวากขาตัสเสวะ เตนิธะ
          นะโม มะหาสังฆัสสาปิ                     วิสุทธะสีละทิฏฐิโน
          นะโม โอมาตยารัทธัสสะ                  ระตะนัตตะยัสสะ สาธุกัง
          นะโม โอมะกาตีตัสสะ                      ตัสสะ วัตถุตตะยัสสะปิ
          นะโม การัปปะภาเวนะ                     วิคัจฉันตุ อุปัททะวา
          นะโม การานุภาเวนะ                       สุวัตถิ โหตุ สัพพะทา
          นะโม การัสสะ เตเชนะ                     วิธิมหิ โหมิ เตชะวา ฯ

(๖)     บทมงคลสูตร
              อะเสวะนาจะ พาลานัง              ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา
          ปูชา จะ ปูชะนียานัง                     เอตัมมังคะละมุตตะมัง.
          ปะฏิรูปะเทสะวาโส จะ                  ปุพเพ จะ กะตะปุญญะตา
          อัตตะสัมมาปะณิธิ จะ                  เอตัมมังคะละมุตตะมัง.
          พาหุสัจจัญจะ สิปปัญจะ                วินะโย จะ สุสิกขิโต
          สุภาสิตา จะ ยาวาจา                    เอตัมมังคะละมุตตะมัง.
          มาตาปิตุอุปัฏฐานัง                       ปุตตะทารัสสะ สังคะโห
          อะนากุลา จะ กัมมันตา                เอตัมมังคะละมุตตะมัง.
          ทานัญจะ ธัมมะจะริยา จะ              ญาตะกานัญจะ สังคะโห
          อะนะวัชชานิ กัมมานิ                    เอตัมมังคะละมุตตะมัง
          อาระตี วิระตี ปาปา                    มัชชะปานา จะ สัญญะโม
          อัปปะมาโท จะ ธัมเมสุ                เอตัมมังคะละมุตตะมัง.
          คาระโว จะ นิวาโต จะ                 สันตุฏฐี จะ กะตัญญุตา
          กาเลนะ ธัมมัสสะวะนัง                  เอตัมมังคะละมุตตะมัง.
          ขันตี จะ โสวะจัสสะตา                  สะมะณานัญจะ ทัสสะนัง
          กาเลนะ ธัมมะสากัจฉา                เอตัมมังคะละมุตตะมัง.
          ตะโป จะ พรัหมะจะริยัญจะ           อะริยะสัจจานะ ทัสสะนัง
          นิพพานะสัจฉิกิริยา จะ                  เอตัมมังคะละมุตตะมัง. 
          ผุฏฐัสสะ โลกะธัมเมหิ                 จิตตัง ยัสสะ นะ กัมปะติ
          อะโสกัง วิระชัง เขมัง                  เอตัมมังคะละมุตตะมัง.
          เอตาทิสานิ กัตวานะ                     สัพพัตถะมะปะราชิตา
          สัพพัตถะ โสตถิง คัจฉันติ              ตันเตสัง มังคะละมุตตะมันติ.

(๗)       บทรัตนสูตร (แบบย่อ)
              ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา
          คเคสุ วา ยัง ระตะนัง ปะณีตัง
          นะ โน สะมัง อัตถิ ตะถาคะเตนะ
          อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง
          เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ.
              ขะยัง วิราคัง อะมะตัง ปะณีตัง
          ยะทัชฌะคา สักยะมุนี สะมาหิโต
          นะ เตนะ ธัมเมนะ สะมัตถิ กิญจิ
          อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง
          เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ.
              ยัมพุทธะเสฏโฐ ปะริวัณณะยี
          สุจิง สะมาธิมานันตะริกัญญะมาหุ
          สะมาธินา เตนะ สะโม นะ วิชชะติ
          อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง
          เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ.
              เย ปุคคะลา อัฏฐะ สะตัง ปะสัฏฐา 
          จัตตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนติ
          เต ทักขิเณยยา สุคะตัสสะ สาวะกา
          เอเตสุ ทินนานิ มะหัปผะลานิ
          อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
          เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ.
              เย สุปปะยุตตา มะนะสา ทัฬเหนะ
          นิกกามิโน โคตะมะสาสะนัมหิ
          เต ปัตติปัตตา อะมะตัง วิคัยหะ
          ลัทธา มุธา นิพพุติง ภุญชะมานา
          อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
          เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ.
              ขีณัง ปุราณัง นะวัง นัตถิ สัมภะวัง
          วิรัตตะจิตตายะติเก ภะวัสมิง
          เต ขีณะพีชา อะวิรุฬหิฉันทา
          นิพพันติ ธีรา ยะถายัมปะทีโป

(๘)     บทกรณียเมตตสูตร  (แบบย่อ) 
            เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง            มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง
          อุทธัง อะโธ จะ ติริยัญจะ              อะสัมพาธัง อะเวรัง อะสะปัตตัง
          ติฏฐัญจะรัง นิสินโน วา                สะยาโน วา ยาวะตัสสะ วิคะตะมิทโธ
          เอตัง สะติง อะทิฏเฐยยะ               พรัหมะเมตัง วิหารัง อิธะมาหุ
          ทิฏฐิญจะ อะนุปะคัมมะ สีละวา       ทัสสะเนนะ สัมปันโน
          กาเมสุ วิเนยยะ เคธัง                  นะ หิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุนะเรตีติ  

(๙)     บทขันธปริตร 
              วิรูปักเขหิ เม เมตตัง                 เมตตัง เอราปะเถหิ เม
          ฉัพฺยาปุตเตหิ เม เมตตัง                 เมตตัง กัณหาโคตะมะเกหิ จะ
          อะปาทะเกหิ เม เมตตัง                  เมตตัง ทิปาทะเกหิ เม
          จะตุปปะเทหิ เม เมตตัง                 เมตตัง พะหุปปะเทหิ เม
          มา มัง อะปาทะโก หิงสิ                 มา มัง หิงสิ ทิปาทะโก
          มา มัง จะตุปปะโท หิงสิ                 มา มัง หิงสิ พะหุปปะโท
          สัพเพ สัตตา สัพเพ ปาณา             สัพเพ ภูตา จะ เกวะลา
          สัพเพ ภัทฺรานิ ปัสสันตุ                  มา กิญจิ ปาปะมาคะมา
          อัปปะมาโณ  พุทโธ  อัปปะมาโณ  ธัมโม  อัปปะมาโณ  สังโฆ  
          ปะมาณะวันตานิ สิริงสะปานิ อะหิ วิจฉิกา สะตะปะที อุณณานาภี  
          สะระพู มูสิกา กะตา เม รักขา กะตา เม ปะริตตา ปฏิกกะมันตุ ภูตานิ  
          โสหัง นะโม ภะคะวะโต นะโม สัตตันนัง สัมมาสัมพุทธานังฯ

(๑๐)     บทโมระปริตร
              อุเทตะยัญจักขุมา เอกราชา
          หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส
          ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง
          ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ ทิวะสัง 
              เย พรัหมะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม
          เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ
          นะมัตถุ พุทธานัง มะมัตถุ โพธิยา
          นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา
          อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร จะระติ เอสะนา 
              อะเปตะยัญจักขุมา เอกราชา
          หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส
          ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง
          ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ รัตติง 
              เย พรัหมะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม
          เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ
          นะมัตถุ พุทธานัง มะมัตถุ โพธิยา
          นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา
          อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร วาสะมะกัปปะยีติ

(๑๑)    บทวัฏฏะกะปริตร
              อัตถิ โลเก สีละคุโณ               สัจจัง โสเจยยะนุททะยา
          เตนะ สัจเจนะ กาหามิ                 สัจจะกิริยะมะนุตตะรัง 
              อาวัชชิตวา ธัมมะพะลัง            สะริตวา ปุพพะเก ชิเน 
          สัจจะพะละมะวัสสายะ                  สัจจะกิริยะมะกาสะหัง 
              สันติ ปักขา อะปัตตะนา            สันติ ปาทา อะวัญจะนา  
          มาตา ปิตา จะ นิกขันตา               ชาตะเวทะ ปะฏิกกะมะ 
              สะหะ สัจเจ กะเต มัยหัง           มะหาปัชชะลิโต สิขี
          วัชเชสิ โสฬะสะ กะรีสานิ              อุทะกัง ปัตวา ยะถาสิขี 
          สัจเจนะ เม สะโม นัตถิ                 เอสา เม สัจจะปาระมีติฯ

(๑๒)     บทอาฏานาฏิยะปริตร
              วิปัสสิสสะ นะมัตถุ           จักขุมันตัสสะ สิรีมะโต
          สิขิสสะปิ นะมัตถุ                 สัพพะภูตานุกัมปิโน
          เวสสะภุสสะ นะมัตถุ             นะหาตะกัสสะ ตะปัสสิโน
          นะมัตถุ กะกุสันธัสสะ            มาระเสนัปปะมัททิโน
          โกนาคะมะนัสสะ นะมัตถุ       พราหมะณัสสะ วุสีมะโต
          กัสสะปัสสะ นะมัตถุ              วิปปะมุตตัสสะ สัพพะธิ
          อังคีระสัสสะ นะมัตถุ             สักยะปุตตัสสะ สิรีมะโต
          โย อิมัง ธัมมะมะเทเสสิ          สัพพะทุกขาปะนูทะนัง
          เย จาปิ นิพพุตา โลเก           ยะถาภูตัง วิปัสสิสุง
          เต ชะนา อะปิสุณา               มะหันตา วีตะสาระทา
          หิตัง เทวะมะนุสสานัง           ยัง นะมัสสันติ โคตะมัง
          วิชชาจะระณะสัมปันนัง         มะหันตัง วีตะสาระทัง 
          วิชชาจะระณะสัมปันนัง         พุทธัง วันทามะ โคตะมันติฯ

(๑๓)    บทโพชฌังคปริตร
              โพชฌังโค สะติสังขาโต          ธัมมานัง วิจะโย ตะถา
          วิริยัมปีติปัสสัทธิ                      โพชฌังคา จะ ตะถาปะเร 
          สะมาธุเปกขะโพชฌังคา             สัตเต เต สัพพะทัสสินา
          มุนินา สัมมะทักขาตา                ภาวิตา พะหุลีกะตา
          สังวัตตันติ อะภิญญายะ             นิพพานายะ จะ โพธิยา
          เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ               โสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ
              เอกัสมิง สะมะเย นาโถ          โมคคัลลานัญจะ กัสสะปัง
          คิลาเน ทุกขิเต ทิสวา                โพชฌังเค สัตตะ เทสะยิ
          เต จะ ตัง อะภินันทิตวา             โรคา มุจจิงสุ ตังขะเณ
          เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ               โสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ
              เอกะทา ธัมมะราชาปิ             เคลัญเญนาภิปีฬิโต
          จุนทัตเถเรนะ ตัญเญวะ               ภะณาเปตวานะ สาทะรัง
          สัมโมทิตวา จะ อาพาธา              ตัมหา วุฏฐาสิ ฐานะโส
          เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ                 โสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ
              ปะหีนา เต จะ อาพาธา           ติณณันนัมปิ มะเหสินัง
          มัคคาหะตะกิเลสาวะ                  ปัตตานุปปัตติธัมมะตัง
          เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ                  โสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ

(๑๔)   บทอะภะยะปริตร
              ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ
          โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
          ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
          พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ
              ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ
          โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
          ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
          ธัมมานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ
              ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ
          โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
          ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
          สังฆานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ

(๑๕)   บทเทวะตาอุยโยชะนะคาถา
              ทุกขัปปัตตา จะ นิททุกขา     ภะยัปปัตตา จะ นิพภะยา
          โสกัปปัตตา จะ นิสโสกา           โหนตุ สัพเพปิ ปาณิโน
          เอตตาวะตา จะ อัมเหหิ             สัมภะตัง ปุญญะสัมปะทัง
          สัพเพ เทวานุโมทันตุ                สัพพะสัมปัตติสิทธิยา
          ทานัง ทะทันตุ สัทธายะ            สีลัง รักขันตุ สัพพะทา
          ภาวะนาภิระตา โหนตุ               คัจฉันตุ เทวะตาคะตา ฯ
          สัพเพ พุทธา พะลัปปัตตา           ปัจเจกานัญจะ ยัง พะลัง
          อะระหันตานัญจะ เตเชนะ           รักขัง พันธามิ สัพพะโส ฯ

(๑๖)   บทอุณหิสสวิชัย
              อัตถิ อุณหิสสะ วิชะโย      ธัมโม โลเก อะนุตตะโร
          สัพพะสัตตะหิตัตถายะ            ตัง ตวัง คัณหาหิ เทวะเต                       
          ปะริวัชเช ราชะทัณเฑ          อะมะนุสเสหิ ปาวะเก
          พะยัคเฆ นาเค วิเส ภูเต         อะกาละมะระเณนะ วา
          สัพพัสมา มะระณา มุตโต        ฐะเปตวา กาละมาริตัง
          ตัสเสวะ อานุภาเวนะ             โหตุ เทโว สุขี สะทา
          สุทธะสีลัง สะมาทายะ           ธัมมัง สุจะริตัง จะเร
          ตัสเสวะ อานุภาเวนะ             โหตุ เทโว สุขี สะทา
          ลิกขิตัง จินติตัง ปูชัง             ธาระณัง วาจะนัง คะรุง
          ปะเรสัง เทสะนัง สุตวา          ตัสสะ อายุ ปะวัฑฒะตีติ

(๑๗)   บทมงคลจักรวาลใหญ่
          สิริธิติมะติเตโชชะยะสิทธิ  มะหิทธิมะหาคุณาปะริมิตะปุญญา
          ธิการัสสะ สัพพันตะรายะนิวาระณะสะมัตถัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต  
          สัมมาสัมพุทธัสสะ ทวัตติงสะมะหาปุริสะลักขะณานุภาเวนะ อะสีตยานุ 
          พยัญชะนานุภาเวนะ อัฏฐุตตะระสะตะมังคะลานุภาเวนะ ฉัพพัณณะ 
          รังสิยานุภาเวนะ  เกตุมาลานุภาเวนะ  ทะสะปาระมิตานุภาเวนะ  
          ทะสะอุปะปาระมิตานุภาเวนะ ทะสะปะระมัตถะปาระมิตานุภาเวนะ  
          สีละสะมาธิปัญญานุภาเวนะ  พุทธานุภาเวนะ  ธัมมานุภาเวนะ  
          สังฆานุภาเวนะ  เตชานุภาเวนะ  อิทธานุภาเวนะ  พะลานุภาเวนะ  
          เญยยะธัมมานุภาเวนะ  จะตุราสีติสะหัสสะธัมมักขันธานุภาเวนะ   
          นะวะโลกุตตะระธัมมานุภาเวนะ  อัฏฐังคิกะมัคคานุภาเวนะ  อัฏฐะ 
          สะมาปัตติยานุภาเวนะ  ฉะฬะภิญญานุภาเวนะ  จะตุสัจจะญาณานุ 
          ภาเวนะ  ทะสะพะละญาณานุภาเวนะ  สัพพัญญุตะญาณานุภาเวนะ  
          เมตตากะรุณามุทิตาอุเปกขานุภาเวนะ  สัพพะปะริตตานุภาเวนะ  
          ระตะนัตตะยะสะระณานุภาเวนะ ตุยหัง สัพพะโรคะโสกุปัททะวะทุกขะ 
          โทมะนัสสุปายาสา วินัสสันตุ สัพพะอันตะรายาปิ วินัสสันตุ สัพพะ 
          สังกัปปา ตุยหัง สะมิชฌันตุ ทีฆายุตา ตุยหัง โหตุ สะตะวัสสะชีเวนะ  
          สะมังคิโก  โหตุ  สัพพะทาฯ  อากาสะปัพพะตะวะนะภูมิคังคามะหา 
          สะมุททา อารักขะกา เทวะตา สะทา ตุมเห อะนุรักขันตุ ฯ  
          ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง           รักขันตุ สัพพะเทวะตา 
          สัพพะพุทธา นุภาเวนะ           สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ
          ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง           รักขันตุ สัพพะเทวะตา 
          สัพพะธัมมา นุภาเวนะ           สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ
          ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง           รักขันตุ สัพพะเทวะตา 
          สัพพะสังฆา นุภาเวนะ           สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ

(๑๘)   ภูมิพลมหาราชวรสฺส ชยมงฺคลคาถา
              ภูมิพโล มหาราชา             นวโม จกฺกิวำ สิโก
          รฏฺฐปฺปสาสเน พฺยตฺโต            นีติจาริตฺตโกวิโท
          สมฺพุทฺธมามโก อคฺโค             สาสนสฺสูปถมฺภโก
          รชฺชำ  ธมฺเมน กาเรติ             ทีฆทสฺสี วิจกฺขโณ
          ทยฺยานำ  วุฑฺฒิมิจฺฉนฺโต         สนฺติมคฺคนิโยชโก
          สพฺเพสำ  ทุกฺขฆาตา จ           สทา จ สุขทายโก
          สพฺพทยฺยานมตฺถาย               สพฺพกิจฺจานิ กุพฺพเต
          ทุกฺขโต ทุกฺขิเต ทยฺเย            ภยโต ภยตชฺชิเต
          สมุสฺสาโห ปโมเจติ               มหาการุญฺญเจตสา
          เมตฺโตทเกน โตเสติ               ฆมฺเม เทโวว ภูมิเช
          สมฺมาอาชีวโยคสฺส                วิธึ วิเนติ โยนิโส
          อนุยุญฺชติ พุทฺเธน                 ภาสิตำ  สมชีวิตำ
          ทยฺยานำ  รฏฺฐปาลีนำ            เอตญฺจ อนุสาสติ
          อิทาเนโส มหาราชา              จตุราสีติอายุโก
          อีทิเส มงฺคเล กาเล                เทมสฺส ชยมงฺคลำ
          รตนตฺตยานุภาเวน                 รตนตฺตยเตชสา
          เสฏฺโฐ ภทฺรมหาราชา            ภูมิพโล นริสฺสโร
          อโรโค สุขิโต โหตุ                สตาติเรกวสฺสิโก
          วณฺณวา พลสมฺปนฺโน             นิทฺทุกฺโข อกุโตภโย
          อนฺตรายูปสคฺเคหิ                  สพฺพารีหิ วิมุจฺจตุ 
          อิจฺฉิตำ  ปตฺถิตำ  สพฺพำ          ขิปฺปมสฺส สมิชฺฌตุ
          จิรำ  รฏฺเฐ ปติฏฺฐาตุ              ปติฏฺฐา ทยฺยวาสินำ
          ทีฆายุตาทิสมฺปนฺนา              สิริกิตฺติ ปรมราชินี
          เต ปุตฺตธีตุนตฺตาโร               ญาติสาโลหิตา จิเม
          ทยฺยิกา จ มหามจฺจา             สุขิตา โหนฺตุ สพฺพทา
          ทยฺยชาติ วิโรเจตุ                 สพฺพสมฺปตฺติสิทฺธิยา
          อิทฺธึ ปปฺโปตุ เวปุลฺลำ           วิรุฬฺหึ จุตฺตรึ สทา
          จิรำ  โลเก ปติฏฺฐาตุ             สมฺมาสมฺพุทฺธสาสนนฺติ ฯ 

         สำหรับบทสวด พระคาถาถวายพระพรชัยมงคลนี้ กองบาลีสนามหลวงเป็นผู้แต่งขึ้น โดยมีมหาเถรสมาคมเป็นฝ่ายตรวจแก้ โดยเป็นการสวดมนต์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 85 พรรษา นอกจากนี้จะเห็นได้ว่าในบทสวดมนต์ข้างต้น ยังมีทั้งบทสวดมนต์อิติปิโส บทโพชฌังคะปริตร และบทพระคาถาถวายพระพรชัยมงคล ภูมิพลมหาราชวรัสสะ ชัยมงคลคาถา ซึ่งเป็นบทสวดมนต์เพื่อถวายพระพรชัยให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุยิ่งยืนนาน มีพระพลานามัยสมบูรณ์ทรงพระเกษมสำราญ ปราศจากภัยพิบัติอีกด้วย
         ซึ่งในการสวดมนต์ดังกล่าว แม้บางท่านจะสวดได้คล่องเพียงใด แต่ถ้าใจไม่สงบนิ่ง หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่สวดไปแล้ว การสวดมนต์ก็อาจไม่ได้ผลเท่าใดนัก เนื่องจากสวดมนต์ก็เหมือนการท่องจำหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา หากจดจำและเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง รวมทั้งนำไปปฏิบัติอย่างถูกวิธี ย่อมจะส่งผลดีต่อบุคคลมากนั้นยิ่งขึ้น 


อานิสงส์ของการสวดมนต์ข้ามปี  
      อานิสงส์ของการสวดมนต์ข้ามปี  ท่านพระมหาวุฒิชัย (ว.วชิรเมธี) ได้ให้ข้อคิดหลักธรรมเกี่ยวกับอานิสงส์ หรือผลที่จะได้รับจากการสวดมนต์ข้ามปี ไว้ดังนี้
1. ลดความเสี่ยงจากอบายมุข อุบัติเหตุและความชั่วร้าย
2. เป็นการทำบุญใหญ่ให้กับชีวิต ทั้งทางกาย ทางจิตและทางปัญญา
3. เป็นการส่งท้ายด้วยธรรมะ และต้อนรับด้วยศีล
4. เป็นการสร้างบรรยากาศรู้เช่นเห็นจริงในสัจธรรม
5. เริ่มต้นชีวิตด้วยสิ่งที่เป็นสิริมงคลอันจะส่งผลให้ได้พบสิ่งที่เป็นมงคลตลอดทั้งปี







การสวดมนต์ข้ามปีนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีงามและเป็นสิ่งที่ควรปลูกฝั่งสร้างจิตสำนึกที่ดีให้กับลูกหลานให้ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ เพราะการสวดมนต์จะทำให้เจริญสติ ทำให้จิตเกิดสมาธิ จิตใจสงบเป็นสุข ด้วยเหตุนี้เอง การสวดมนต์ข้ามปีจึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจในวันขึ้นปีใหม่ เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดเงิน ช่วยลดอุบัติเหตุและอันตรายต่างๆ ยังถือเป็นการทำความดีส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่อีกด้วย